วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชี้มูลสอบสวน และรายชื่อกรรมการมูลนิธิและโรงเรียนฯ

เอกสารแนบ 5 ข้อมูลเพิ่มเติมที่อยากให้มีการตรวจสอบ รายละเอียดต้องใช้ความสามารถวินิจฉัยหาข้อมูลเพิ่มเติม โดยผู้ตรวจสอบบัญชี (ข้อมูลส่วนหนึ่งถูกส่งมอบให้ สพฐ. ไปก่อนหน้านี้แล้ว)
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ หากมองดูเผินๆ ไม่ติดตามข่าวสารจะเสมือนเป็นความเสียสละยิ่งใหญ่มากๆ ที่ให้เด็กได้เรียนฟรี
ให้เด็กได้มีโอกาสเรียนในระบบสามภาษา แต่แท้จริงเป็นกลยุทธ์นายทุนผู้ยึดเด็กเป็นตัวประกัน
ในการขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล นับเป็นความอดสูของวงการศึกษาไทย จริงๆ สร้างความขมขื่นให้แก่เด็กนักเรียนทุกๆ คน โดยที่พ่อแม่ไม่มีโอกาสรับรู้ ความขื่นขมที่ลูกต้องผจญกับการหลบเลี่ยงลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อหัวนักเรียนในรูปแบบต่างๆ เพียงเพื่อแสวงหากำไรสะสมเพื่อนำเงินที่เหลืออยู่ในมือ ของ สพฐ. ประมาณ 20 ล้านบาท เตรียมไว้สร้างตึกใหม่ อาคารใหม่ นับเป็นการนำเงินสะสมที่มีอยุ่ไปเทหน้าตักเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้าง แปลกมากๆ แต่ ทาง สพฐ. และกรรมการโรงเรียนและผู้จัดการโรงเรียน พูดตรงกันว่าทำได้ ส่วนเรื่องประเด็นหลักๆ อื่นๆ อาทิ
ค่าอาหารกลางวันนักเรียน
ค่าจัดหานม การสะสมสต๊อคจากการประหยัดนมที่แจกจริง กันตัวเลขที่แจกจ่ายในบัญชี
การนำทรัพย์สินโรงเรียนไปใช้ส่วนตัว
การหลบเลี่ยงการจัดซื้อจริง มีแต่การจัดซื้อการจ่ายเงินทางบัญชี
ส่วนต่างกำไรค่าวัสดุอุปกรณ์อนุบาล ประถม มัธยม
ค่าซื้อขายวัสดุอุปกรณ์ระหว่าง supplier กับ สหกรณ์
การสวมบิลเรียกเก็บเงิน โดยไม่มีตัวตนสินค้าและบริการจริงๆ
การไม่มีฝ่ายตรวจสอบภายใน ทำหน้าที่แยกกัน แตเป็นคนๆ เดียว ทำหน้าที่สวมรอย
ค่าใช้จ่ายผิดประเภท ตั้งแต่ค่าจัดซื้ออุปกรณ์ ค่าบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
ค่าใช้จ่ายทางบัญชี ที่มีการเซ็นต์รับสมยอมกันทั้งผู้รับเงิน และผู้จ่ายเงิน
การเปลี่ยนบิลบัญชี การออกบิลสะสม ไม่มีต้นขั้วตรวจสอบ บิลผี
การเปลี่ยนยอดเงินทางบัญชี
การตัดสต๊อกวัสดุอุปกรณ์การเรียน ตามความเป็นจริง กับทางบัญชี และ ซัพพลายเออร์ (อาทิ เจ้าของร้าน ว.พานิช ผู้เป็นกรรมการโรงเรียน) 3 ทาง
การหากินจากเงินส่วนต่างอุปกรณ์ จากซัพพลายเออร์และผู้จัดมอบสินค้า
การผสมผสานความรู้ทางบัญชีทั้งด้าน ค่าส่วนเกินทางบัญชี การตั้งบัญชีแบบติดลบ และแบบขาดดุล
การหากินจากค่าส่วนต่างทางด้านประกันภัยประกันอุบัติเหตุ
ด้านการลดทอนวุฒิครูเพื่อลดเงินเดือนให้ต่ำ การละเมิดเฉยต่อการปรับค่าความรู้ประสบการณ์ครู
การปรับค่าเสื่อมราคาทางบัญชี ไปผันเป็นเงินใส่กระเป๋า
การหาประโยชน์จากนำเงินรายได้ไปสร้างรายได้ทางลับและส่วนตัว
การบริหารเงินบริจาค เงินสาธารณะประโยชน์แบบซับซ้อน ปิดบัง
ฯลฯ


ส่วนที่มีผู้สอบถามเรื่องกรรมการมูลนิธิมีใครบ้าง จากการค้นหา ทราบมาดังนี้
1.นายเม่งหลี กีรติยุติวงศ์ เป็นประธานมูลนิธิ มีลูกชายสองคน คนหนึ่งเป็นข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ อีกคนเป้นประธานโรงเรียน
2.นาย อาธร (อาคม) จิตตชโลธร เป็นกรรมการ
3.นาย วีรศักดิ์ ปัญจวัฒนกุล กรรมการ มีพี่น้องคือ นายวีรพงษ์ ปัญจวัฒนกุล เจ้าของพงษ์ศักดิ์ไก่เนื้อ ติดพงษ์ศักดิ์ ติดตลาดใหม่ชลบุรี เป็นนายกสมาคมเลี้ยงไก้เนื้อแห่งประเทศไทย
4. นาย สว่าง บุญธกานนท์ กรรมการ
5. นายไพโรจน์ วงศ์ธนปัญญา กรรมการ
6. นาย ธวัช มรรคไพบูรย์ กรรมการ
7. นาย ลก แซ่โง้ว กรรมการ
รวมถึงกรรมการโรงเรียนบูรพาวิทยา
อันมีรายนามดังต่อไปนี้
1. นาย บุญชัย กีรติยุติวงษ์ ประธานกรรมการโรงเรียน
2.นาย นิพัฒน์ นนทกานันท์
3.นายวัชระ โชติญาณพงษ์
4.นางกิ่งแก้ว แสงประทีป
5.นายชาญ มีบำรุง
6.นางรจนา พรหมศรี
7.นายสมศักดิ์ โกมลพิสิจ
8.นายวัฒนา จตุพร
9.นายชัยพฤกษ์ วิชชาบุญศิริ
10.นายธวัช เศวตกิตติรัตน์ หัวหน้าฝ่ายการเงิน นักตรวจสอบบัญชีอิสระหมายเลขผู้ตรวจ สอบบัญชี 20100478
11.นายคเชนทร์เทพ หาญณรงค์ ผอ. และเลขานุการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เชิญเขียนความเห็นที่นี่